ไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกับการอ่านโยงเสียง เพราะถ้าไม่มีไวยากรณ์ ก็จะไม่สามารถสร้างประโยคขึ้นมาได้ ไวยากรณ์ 이다 มีความหมายว่า เป็น,คือ การใช้ไวยากรณ์ 이다 ใช้ยังไงกันนะ ไปทำความรู้จักกับวิธีการใช้ไวยากรณ์ 이다 กันเถอะค่ะ^^
วิธีการใช้ไวยากรณ์ 이다 แบ่งเป็น 2 รูปแบบดังนี้
รูปแบบสุภาพ
입니다 | ใช้ในประโยคบอกเล่า (อยู่ท้ายสุดของประโยคเท่านั้น) |
입니까? | ใช้ในประโยคคำถาม (อยู่ท้ายสุดของประโยคเท่านั้น) |
아님니다 | ใช้ในประโยคปฏิเสธ (อยู่หน้าหรือหลังประโยคก็ได้) |
โครงสร้าง [ คำนาม + 이다 ]
ตัวอย่าง :
그 남자는 기술자입니다. ผู้ชายคนนั้นเป็นช่าง
가 : 영어 선생님입니까? เป็นครูสอนภาษาอังกฤษใช่ไหมคะ?
나 : 아닙니다, 영이 선생님아닙니다. ไม่ค่ะ ไม่ใช่ครูสอนภาษาอังกฤษค่ะ
รูปแบบทั่วไป
이에요 / 예요 이에요 จะตามหลังคำนามที่มีตัวสะกด 예요 จะตามหลังคำนามที่ไม่มีตัวสะกด | ใช้ในประโยคบอกเล่า เช่น 공색이에요 = คือสมุด 경찰이에요 = คือตำรวจ |
이에요? / 예요? 이에요? จะตามหลังคำนามที่มีตัวสะกด 예요? จะตามหลังคำนามที่ไม่มีตัวสะกด | ใช้ในประโยคคำถาม เช่น 뭐예요? = คืออะไร? |
아니에요 / 아니요 | ใช้ในประโยคปฏิเสธ |
ตัวอย่าง :
가 : 이게 뭐예요? สิ่งนี้คืออะไร ?
나 : 이불이에요. ผ้าห่มค่ะ
가 : 이건 화장품이에요? สิ่งนี้คือเครื่องสำอางใช่ไหม ?
나 : 아니요,화장품아니에요. ไม่ค่ะ ไม่ใช่เครื่องสำอาง
자기 소개 해주세요. กรุณาแนะนำตัว (ให้เพื่อน ๆ ลองแนะนำตัวเองดูนะคะ) 보기 ตัวอย่าง : 안녕하세요? 자기 소개해 드리겠어요. 저는(…ชื่อ…)이에요. 태국 사람이에요. 학생이에요.만나서 반가워요. คำแปล : สวัสดีค่ะ? ขอแนะนำตัวเอง ฉัน(…ชื่อ…)ค่ะ ฉันมาจากประเทศไทย ฉันเป็นนักเรียน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ |
เพื่อน ๆ อย่าลืมนำไปฝึกแต่งประโยค และนำไปใช้ให้ถูกต้องกันด้วยนะคะ ถ้าอยากเรียนรู้ภาษาเกาหลีเพิ่มเติม เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้ได้ที่เว็บไซต์Koreanlanguage.blogได้เลยค่ะ