안녕하세요. สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้แอดจะมาสรุปไวยากรณ์ 고 하다 ในภาษาเกาหลีให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันนะคะ ไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกับการอ่านโยงเสียง เพราะถ้าไม่มีไวยากรณ์ เราก็จะไม่สามารถสร้างประโยคขึ้นมาได้ การใช้ไวยากรณ์ 고 하다 ใช้ยังไงกันนะ ไปทำความรู้จักกับวิธีการใช้ไวยากรณ์ 고 하다 ให้มากขึ้นกันเถอะค่ะ
1.คำนาม(ประโยค) + 라고 하다 แปลว่า “เรียกว่า…/บอกว่า…”
เมื่อผู้พูดต้องการถ่ายทอดข้อความ หรือคำพูดของคนอื่นมาพูดให้ผู้ฟังได้รับทราบ ทำได้โดยการยกข้อความ หรือคำพูดเดิมทั้งหมดมา “เรียกว่า…” จะใช้แนะนำตัวแบบสุภาพสูงสุด “บอก” เป็นการนำเอาคำพูดของคนอื่นมาเล่าต่อโดยยกคำพูดนั้นมาทั้งประโยค (เป็นประโยคบอกเล่า)
ตัวอย่าง :
김선생님이 나에게 “태국음식을 먹고 싶어요” 라고 말했습니다.
แปลว่า คุณคิมบอกฉันว่า “อยากทานอาหารไทย”
2.คำกริยา(ไม่ผัน) + 라고 하다 แปลว่า “สั่งว่า…”
คือการถ่ายทอดความประโยคคำสั่ง ใช้ลงท้ายประโยคถ่ายทอดความจากประโยคคำสั่ง (เป็นประโยคคำสั่ง)
ตัวอย่าง :
선생님이 오늘 까지 숙제를 내라고 했어요.
แปลว่า “คุณครูสั่งว่าให้ส่งการบ้านภายในวันนี้”
3.คำกริยา(ไม่ผัน) + 다고 하다 แปลว่า “บอกว่า…”
ใช้เมื่อต้องการถ่ายทอดข้อความ การถอดความ การพูดทางอ้อม หรือการเอาคำพูดของคนอื่นมาพูดโดยเนื้อหาและความหมายของข้อความนั้นยังคงเดิม (เป็นประโยคบอกเล่า)
ตัวอย่าง :
학생들이 한국어 시험이 어렵다고 합니다.
แปลว่า “พวกนักเรียนว่าการสอบภาษาเกาหลียาก”
4.คำกริยา(ไม่ผัน) + 자고 하다 แปลว่า “ชวนว่า…กันเถอะ/เถอะ”
ใช้ลงท้ายการถ่ายทอดข้อความจากประโยคชักชวน (เป็นประโยคชักชวน)
ตัวอย่าง :
주말에 친구가 밥을 같이 먹자고 했어요.
แปลว่า “เพื่อนชวนว่าสุดสัปดาห์กินข้าวด้วยกันเถอะ”
5.คำกริยา + 냐고 하다 แปลว่า “ถามว่า…”
ใช้ลงท้ายประโยคถ่ายทอดความจากประโยคคำถาม (เป็นประโยคคำถาม)
ตัวอย่าง :
준석 씨가 나에게 이책이 재미있느냐고 했어요.
แปลว่า “คุณจุนซ็อกถามฉันว่าหนังสือเล่มนี้สนุกไหม ?”
เพื่อน ๆ ทราบกันแล้วใช่ไหมล่ะคะว่า ไวยากรณ์ในภาษาเกาหลีนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ฉะนั้นแล้วอย่าลืมนำไปฝึกแต่งประโยค และนำไปใช้ให้ถูกต้องกันด้วยนะคะ ถ้าอยากเรียนรู้ภาษาเกาหลี หรือไวยากรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้ได้ที่เว็บไซต์Koreanlanguage.blogได้เลยค่ะ